Angkor Wat สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งประวัติศาตร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมาฝากค่ะ ซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง สถานที่แห่งนั้นก็คือ ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) ประเทศกัมพูชานั่นเอง ซึ่งเราเองเคยไป ณ ที่แห่งนี้มาแล้ว อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้รับรู้ไปด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของปราสาทนครวัดกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปพิสูจน์พร้อมกันเลยค่ะ

watnumber-10


ความเป็นมาและความสําคัญ
      ปราสาทนครวัด ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมเรียบ ในประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อบูชาพระวิษณุ และเป็นศาสนสถานประจําพระนครของพระองค์ เมื่อสมัยแรกนั้นนครวัดได้ถูกสร้างเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย แต่ต่อมาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้เปลี่ยนให้เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ในปัจจุบันปราสาทนครวัดนับเป็นสิงก่อสร้างสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งนครวัดมีความแตกต่างจากปราสาทเขมรหลังอื่นในเรื่องของการวางทิศประธานที่หันไปทางทิศตะวันตกแทนที่จะเป็นทิศตะวันออก สรุปได้ว่าพระเจ้าสุริยวรรมันนั้นประสงค์ที่จะสร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นให้เป็นปราสาทที่เก็บพระบรมศพของพระองค์แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานอืน ๆ ที่ได้จากการศึกษาภาพสลักนูนตํ่าที่เรียงลําดับเรื่องราวในทิศทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งต่างไปจากเทวสถานฮินดูทั่วไป โดยพิธีกรรมต่าง ๆ ของพราหมณ์ในพิธีพระบรมศพก็ยังจัดขึนแบบย้อนลําดับอีกด้วย แนวคิดที่ว่าปรางค์ประธานตรงกลางนั้นเหมาะสมที่สุดในการทําพิธีจัดการกับพระบรมศพ เพราะเชื่อกันว่าเปรียบเสมือนศูนย์รวมของพลังอํานาจทั้งปวง นักวิชาการบางคนได้ระบุว่าปราสาทหลายหลังในเมืองพระนครเองก็ไม่ได้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามธรรมเนียมเสียหมด และอีกประเด็นหนึ่งนครวัดมีการวางทิศเช่นนี้ก็เพราะปราสาทหลังนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุ ซึ่งเป็นเทพเจ้าประจําทิศตะวันตก ลักษณะปราสาทนครวัด มีขนาดใหญ่ถึง 200,000 ตารางเมตร ตัวปราสาทสูง 60 เมตร ยาว 100 เมตร กว้าง 80 เมตร มีแผนผังที่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของปราสาทขอม มีปราสาท 5 หลังตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติของศูนย์กลางจักรวาล มีกําแพงด้านนอกยาวด้านละ 1.5 กิโลเมตร มีคูนํ้าล้อมรอบตามแบบมหาสมุทรบนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ โดยมีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก 


แผนผังปราสาทนครวัด
     เป็นแบบแกนวิ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สุดในศิลปะขอม หันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีกำแพงล้อมรอบ 4 ชั้น ก่อนถึงปราสาทประธาน กำแพงด้านนอกสุดมีคูน้ำที่ล้อมรอบทั้งสี่ด้าน คูน้ำกว้าง 100 เมตร ด้านทิศตะวันตกมีสะพานนาคทอดข้ามคูน้ำเข้ามาที่กำแพงชั้นนอก มีซุ้มประตู (โคปุระ) 5 ประตู 3 ประตู อยู่แนวตรงกลางอีก 2 ประตู อยู่ด้านข้างสุดปลายระเบียงคด เจาะลึกระดับพื้นดิน (คงทำไว้ให้ช้างและเกวียนสามารถผ่านเข้า-ออกได้) กำแพงชั้นที่ 2 (จากด้านนอก) อยู่ลึกเข้ามา มีทางเดินเชื่อมระหว่างกำแพงชั้นนอกและชั้นที่ 2 ยาว 350 เมตร.



 ระเบียงคดชั้นที่ 2 มีเส้นรอบวงยาว 800 เมตร มีผนังด้านเดียว ก่อทึบ ขัดเรียบสลักภาพนูนต่ำไว้หมดทุกด้าน มีบางด้านที่สลักขึ้นใหม่ในสมัยหลัง (สมัยนักองค์จัน ราวพุทธศตวรรษที่ 21) คือด้านทิศเหนือปีกตะวันออก และด้านทิศตะวันออกปีกเหนือ (มีจารึกบอกไว้ที่ใกล้ซุ้มประตูทางด้านทิศตะวันออก)  

       Image result for ระเบียงคตของนครวัด                      Image result for ระเบียงคตของนครวัด
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images                                                      http://www.huexonline.com/uploadsAngkorWat/.jpg


ระหว่างกำแพงชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 มีพื้นที่ว่างไม่มาก (ห่างกันราว ๆ 20 เมตร) แต่ฐานของกำแพงชั้นที่ 3 ถูกยกสูงขึ้นไปมาก มีบันไดที่ซุ้มประตูแต่ละด้านแต่ละทิศสูงชันและแคบมาก.
     กำแพงชั้นที่ 3 ไม่ปรากฎภาพสลักนูนต่ำเหมือนชั้นที่ 2 มีเพียงผนังด้านนอกและด้านในที่สลักเป็นรูปนางอัปสร จัดวางไว้เป็นระยะไม่ต่อเนื่อง สลับกับหน้าต่างที่เจาะทะลุมีลูกกรงลูกมะหวดประดับไว้ระหว่างกำแพงชั้นที่ 3 และชั้นที่ 4 มีบันไดที่สูงชันและแคบขึ้นลงได้ทางด้านทิศตะวันออกและตะวันตกด้านละ 3 ทาง ด้านทิศเหนือและทิศใต้ด้านละทางเดียว.
     เมื่อขึ้นไปถึงกำแพงชั้นที่ 4 แล้ว มีระเบียงที่มีหลังคาคลุมเชื่อมถึงกันเป็นสี่เหลี่ยมและเชื่อมกับปราสาทประธานจากซุ้มประตูแต่ละทิศ ทำให้ด้านบนสุดของปราสาทมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมและมีกากบาทอยู่ตรงกลาง.
     ตัวปราสาทประธานสูงจากพื้นดินประมาณ 60 เมตร มีประตูเข้า-ออกทั้งสี่ด้านแต่ปัจจุบันตรงกลางก่อปูนทึบปั้นเป็นพระพุทธรูปประทับยืนแสดงปางประทานอภัย (แบบกัมพูชา) ประดับไว้ (ปั้นในสมัยหลังแล้ว อาจเป็นสมัยนักองค์จัน)
     ที่ผนังของปราสาทประธานทำสูงต่ำและยกมุมไล่ระดับ ตามที่ว่างประดับด้วยภาพนูนต่ำเป็นนางอัปสรในกิริยาต่าง ๆ 


Related image

ทับหลัง
     เป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ สลักรูปบุคคลขนาดเล็ก มหาเทพ เทพเจ้า สัตว์ต่าง ๆ ตามที่ปรากฎในมหากาพย์ของศาสนาฮินดู (อาทิ รามายณะ, มหาภารตะ, นารายณ์อวตาร ฯ) บ้างก็เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ ท่อนพวงมาลัยยังปรากฎอยู่ แต่เริ่มต้นจากจุดกึ่งกลางด้านล่างของทับหลังวกขึ้น แล้วฉีกออกด้านข้าง แล้ววกลงอีกครั้งหนึ่ง



เสาประดับกรอบประตู
     เป็นเสาแปดเหลี่ยม เพิ่มจำนวนวงแหวนที่คาดมากขึ้น ทำให้แบ่งเสาเป็นแปดส่วน มีพื้นที่ให้สลักลายใบไม้ประดับเสาน้อย ใบไม้จึงลดขนาดใบเล็กลงแต่มีจำนวนใบถี่ขึ้นเป็นฟันเลื่อย (สลักตามขนาดของพื้นที่)



รูปแบบศิลปะ 
      ปราสาทนครวัด เป็นสถาปัตยกรรมเขมรรูปแบบคลาสสิกที่สําคัญที่สุด ซึ่งชื่อเรียกรูปแบบศิลปะในสมัยคลาสสิกนี้เรียกกันว่า “ศิลปะนครวัด” สถาปัตยกรรมของนครวัดก่อสร้างโดยการรวมเอาลักษณะการสร้างปราสาทให้เสมือนภูเขา เข้ากับแบบผังของอาคารในสมัยหลังที่มีการทําระเบียงคดล้อมจุดศูนย์กลาง 
ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยกย่องเหนือปราสาทหลังอื่นๆ เนื่องด้วยความกลมกลืนของการออกแบบ มอริส เกรซ นักอนุรักษ์ของปราสาทนครวัดในช่วงศตวรรษที่ 20 ได้ระบุว่า ปราสาทหลังนี้ “ได้บรรลุถึงความสมบูรณ์แบบที่คลาสสิกด้วยการเป็นอนุสรณ์แห่งองค์ประกอบที่มีความพอดีอย่างประณีต มีการจัดสัดส่วนที่แม่นยำ เป็นผลงานที่เปี่ยมไปด้วยพลัง มีความเป็นหนึ่งเดียว และเต็มไปด้วยลีลา

Related image




ทุกคนก็ได้ทราบกันแล้วนะคะ เกี่ยวกับปราสาทนครวัด แต่ถ้าจะดีกว่านี้ เราอยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง แล้วทุกคนจะได้เห็นปราสาทนครวัดสมัยเมืองประนคร ว่ามีความงดงาม ใหญ่โตมากขนาดไหน เรารู้สึกประทับใจมากจากที่ได้ไปมาแล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนก็ไม่ควรพลาดที่จะไปย้อนรอยประวัติศาสตร์กันที่ ปราสาทนครวัดแห่งนี้กันนะคะ ^ ^



อ้างอิงแหล่งที่มา

- Wikipedia.(2561).นครวัด.สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 , จาก https://th.wikipedia.org/wiki/94

- Grand Avatan.(ม.ป.ป.).ปราสาทนครวัด.สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 , จาก http://www.grandavatan.com/94-211.html

- ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.(ม.ป.ป.).ปราสาทนครวัด.สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 , จาก http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth/94.html

- Human Excellence.(2561).นครวัด.สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 , จาก http://huexonline.com/knowledge/26/181/


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ว่ายน้ำกับฉลามวาฬ มิติใหม่ที่เมืองDonsol

ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับ ชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เผยแพร่ตั้งแต่ปี 2542 - 2562 (ตอนที่ 1)

พระวัชรปาณีโพธิสัตว์ แห่งพุทธมหายาน